วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ดีปลี Long pepper

สวัสดีค่ะ วันนี้ครูไอซ์ขอนำเสนอเรื่องของดีปลีให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันนะค่ะ
Hi to my friend. Teacher ice present the long pepper.

ใครที่สนใจพันธุ์ดีปลีมีจำหน่ายต้นละ 15 บาท ถ้า 100 ถุงขึ้นถุงละ 10 บาทค่ะ ทุกถุงมีรากขึ้นพร้อมแล้วลงปลูกได้เลย คนที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ทาง 0972478544 หรือ Candyice Ice/facebook.com และทาง iceturtor@gmail.com ค่ะ มีบริการส่งไปรษณีย์และสามารถมารับได้ที่บ้านที่กาญจนบุรีค่ะ

ดีปลี Long pepper


ตอนนี่หลังจากที่บ้านไอซ์ได้ปลูกดีปลีแล้วมาประมาณหลายปีก็พอได้เงินสมน้ำสมเนื้อในแต่ละเดือนพอสมควร เราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขายเท่านั้นแต่เรายังสามารถให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจจะปลูกได้ด้วย บ้านหนึ่งที่มีพื้นที่เราสามารถปลูกไว้ได้ข้างบ้านหลังบ้านหรือหน้าบ้านได้ด้วย ใช้พื้นที่ไม่มากเลยจริง ๆ ค่ะ แถมดูแลง่าย ๆ อีกด้วย  

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เสาปลูกดีปลีเสาไม้หรือเสาปูนดีกว่า

การปลูกดีปลี การเตรียมดิน เลือกพื้นที่มรความอุดมสมบูรณ์ มีความร่วนซุยและรับายน้ำได้ดีไม่มีน้ำขัง และการเตรียมพันธุ์ที่ปลูก ดีปลีนิยม ขายพันธุ์โดยใช้เถาปักชำในถุงดำพอมีรากแล้วค่อยนำมาลงดินที่เตียมไว้ 


วิธีปลูก

1. ใช้ยอดแก่ปลูก 3-4 ยอดต่อค้าง เกษตรกรอาจไม่เพาะชำกล้า แต่ใช้วิธีปลูกทันที โดยตัดยอดดีปลีประมาณ 5 ข้อแล้วนำไปปลูกติดกับเสาค้างเลย 3-5 ค้างต่อเสา ฝังลงดินประมาณ 3 ข้อ นำยอดทั้งหมดผูกติดกับเสาค้างเพื่อให้รากยึดเกาะที่เกิดขึ้นใหม่เกาะติดกับเสาค้าง พรางแสงด้วยทางมะพร้าวประมาณ 2 สัปดาห์

2. ค้างที่ใช้ปลูกดีปลีเป็นค้างไม้หรือค้างปูน เสาค้างไม้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10-15 เซนติเมตร เป็นไม้เนื้อแข็ง มีอายุการใช้งาน 10-20 ต้นดีปลี สามารถยึดเกาะได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันเสาค้างไม้หายากและมีราคาสูงจึงใช้เสาคอนกรีตสี่เหลี่ยมขนาด 15x15 เซนติเมตร สูง 2.5 เมตร รากของดีปลีที่ใช้ยึดเกาะกับเสาค้างคอนกรีตไม่สามารถยึดเกาะได้ดีเท่าค้างไม้เพราะเมื่ออุณหภูมิสูงจะเก็บความร้อน

3. สำหรับระยะปลูก ระหว่างต้น 1.5-2 เมตร ระหว่างแถว 2 เมตร โดยจะได้จำนวนต้นในการปลูก 400-600ต้น/ไร่

การดูแลรักษา

1. ใส่ปุ๋ย สำคัญมากเนื่องจากดีปลีเป็นพืชหลายปีและให้ผลผลิตตลอดปี ควรให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ ที่ใช้ได้มีทั้งปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ หยอดที่โคนต้น 1 กำมือต่อต้น

2. ให้น้ำสม่ำเสมอ ใช้ระบบการให้น้ำตามร่อง 1 ครั้ง/สัปดาห์ แต่ไม่ควรให้แฉะจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดโรคโคนเน่า

3. กำจัดวัชพืช 2 ครั้ง/เดือน ในช่วงฝนโดยวิธีถางตามแนวร่อง

การปฏิบัติก่อนและหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต

1. ดีปลี ให้ผลผลิตและเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 6 เดือน ถึง 1 ปี โดยทั่วไปสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 3 ครั้ง/ปี

2. วิธีเก็บเกี่ยว ใช้มือเด็ดที่ก้านขั้วผล สำหรับค้างที่สูงใช้บันไดปีนขึ้นไปเก็บเกี่ยว ใน 1 กิ่ง สามารถเก็บผลดีปลีได้ 2-3 ผลต่อครั้ง การเก็บเกี่ยวแต่ละรุ่นใช้ระยะห่างกัน 1-2 เดือน

3. คัดแยกผลที่มีสีส้มแก่ เนื้อแน่นแข็ง ไม่มีรอยถูกแมลงทำลายออกจากผลที่ไม่มีคุณภาพ

4. นำไปตางห้งทันทีเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา โดยตากบนภาชนะยกพื้น สะอาด ป้องกันฝุ่นละอองหรือการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์จนแห้งสนิท อัตราแห้งของดีปลี 4 กิโลกรัมสด ได้ 1 กิโลกรัมแห้ง

5. เก็บรักษาในภาชนะที่สะอาด ระบายอากาศได้ แห้งเย็นและปราศจากแมลงสัตว์รบกวน

แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

1. ดีปลีเป็นพืชอายุยืน หากมีการบำรุงรักษาที่ดีจะสามารถให้ผลผลิตได้นานถึง 40 ปี ดังนั้นควรเลือกพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์

2. การป้องกันโรคเน่า โคนเน่าเป็นปัญหาสำคัญ ควรให้ความสำคัญเรื่องดินที่ระบายน้ำได้ดี และมีการจัดการที่ดี เช่น การพูนโคนและทำร่องน้ำให้มีความลาดเทเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไหลผ่านสะดวก

3. ควรใช้ค้างที่มีความแข็งแรง มีอายุการใช้งานนาน เพราะการเปลี่ยนค้างบ่อยทำให้สิ้นเปลืองและทำให้ดีปลีชะงักการเจริญเติบโต

4. คุณภาพที่ตลาดต้องการ คือ ผลขนาดใหญ่, สีน้ำตาลแดง ไม่ดำคล้ำ แห้งสนิทไม่กรอบเกินไป ไม่มีเชื้อราหรือแมลงติดอยู่ และไม่มีสิ่งปนเปื้อน ดังนั้นการตากแห้งและเก็บรักษาจึงสำคัญมากทำให้ไม่เสียคุณภาพและขายได้ราคาสูง

มารู้จักดีปลีกันอีกหน่อยนะค่ะ


ดีปลี ชื่อสามัญ Long pepper, Indian long pepper, Javanese long pepper
ดีปลี ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper retrofractum Vahl (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Chavica officinarum Miq., Piper chaba Hunter, Piper officinarum (Miq.) C. DC.) แต่บางข้อมูลระบุว่าเป็นชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Piper longum L. จัดอยู่ในวงศ์พริกไทย (PIPERACEAE)
สมุนไพรดีปลี มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ดีปลีเชือก (ภาคใต้), ปานนุ ประดงข้อ (ภาคกลาง), พิษพญาไฟ ปีกผัวะ เป็นต้น
สมุนไพรดีปลี สมุนไพรเก่าแก่ที่มีความสำคัญชนิดหนึ่ง มีหลักฐานการจดบันทึกมานานกว่า 4,000 ปี มีแหล่งผลิตใหญ่อยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย สำหรับในประเทศไทยบ้านเราทางภาคใต้และภาคเหนือนิยมใช้ผลดีปลีมาเป็นเครื่องเทศแทนพริกและพริกไทย โดยทั้งดีปลีและพริกไทยต่างก็มีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุไฟในการย่อยอาหารเหมือน ๆ กัน แต่ดีปลีจะดีกว่าในเรื่องของลมเบ่งของมดลูก หรือลมที่ค้างในลำไส้ รวมไปถึงอาการกำเริบของเสมหะและลมปอด ส่วนพริกไทยนั้นจะดีกับลมที่ขับปัสสาวะ

ลักษณะของดีปลี

  • ต้นดีปลี มีถิ่นกำเนิดที่เกาะโมลัคคาส (Moluccas) ในมหาสมุทรอินเดีย แต่ได้มีการนำมาปลูกและแพร่กระจายในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย โดยจัดเป็นไม้เถามีรากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะและเลื้อยพัน เถาค่อนข้างเหนียวและแข็ง มีข้อนูน แตกกิ่งก้านสาขามาก เจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น มีแสงแดดรำไร
  • ใบดีปลี มีใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะเป็นรูปไข่แกมขอบขนาน ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร มีเส้นใบออกจากโคนประมาณ 3-5 เส้น ส่วนก้านใบยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
  • ดอกดีปลี หรือ ผลดีปลี ผลสดมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ลักษณะของผลอัดกันแน่นเป็นช่อรูปทรงกระบอก โคนใหญ่กว่าปลายไม่มาก ปลายเล็กมน ผลมีความยาวประมาณ 2.5-7.5 เซนติเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร ผิวของผลค่อนข้างหยาบ และมีเกสรตัวเมียติดอยู่ ผลย่อยมีเมล็ดเดียว โดยเมล็ดมีขนาดเล็กมาก ลักษณะกลมและแข็ง ผงของผลมีสีน้ำตาล มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสเผ็ดร้อน ขมปร่า นิยมเก็บผลมาใช้เมื่อผลเริ่มเป็นสีน้ำตาล แล้วนำมาตากแดดให้แห้ง
  • ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้แก่ ส่วนของดอก ใบ ผลแก่จัดแต่ยังไม่สุก หรือตากแดดให้แห้ง เถา และรากดีปลี
  • สรรพคุณของดีปลี

    1. เชื่อกันว่าดีปลีมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลังและช่วยบำรุงกำหนัด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    2. ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยการใช้ดอกดีปลี 10 ดอก หัวแห้วหมู 10 หัว พริกไทย 10 เม็ด นำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งแท้ ใช้รับประทานก่อนนอนทุกคืน (ดอก)
    3. ดอกดีปลีช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (ดอก, ผลแก่จัด, ราก)
    4. ผลแก่จัดช่วยบำรุงธาตุไฟ แก้ธาตุไฟหย่อนหรือพิการ ช่วยรักษาอาการกำเริบของธาตุน้ำและธาตุลม (ผลแก่จัด)
    5. ช่วยแก้ธาตุพิการ แก้ธาตุไม่ปกติ แก้ปฐวีธาตุพิการ แก้วิสติปัฏฐี แก้ปัถวีธาตุ 20 ประการ (ผล, ดอก)
    6. ใช้เป็นยากระจายลม ระบายความเจ็บปวด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    7. ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ดอก, เถา)
    8. ผงของผลมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสเผ็ด ขม ปร่า สรรพคุณช่วยขับน้ำลายและทำให้ลิ้นชา (ผล)
    9. ช่วยแก้ลมอัมพฤกษ์ (เถา)
    10. ช่วยแก้ลมวิงเวียน ด้วยการใช้ดอกแก่นำมาต้มน้ำดื่ม (ดอก, ผลแก่จัด, ราก)
    11. ใช้เป็นยาระงับแก้อาการนอนไม่หลับ (ผล)
    12. ช่วยระงับอชินโรคหรือโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย หรือมักเป็น ๆ หาย ๆ (ผล)
    13. ช่วยแก้ตัวร้อน (ราก)
    14. ช่วยแก้ไข้เรื้อรังหรืออาการไข้ที่มักเป็น ๆ หาย ๆ ด้วยการใช้ดอกดีปลีล้างสะอาด นำมาบดหรือตำพอหยาบ ๆ ประมาณครึ่งแก้ว นำมาต้มกับน้ำ 4 แก้ว จนเหลือ 1 แก้ว แล้วกรองเอาแต่น้ำมาดื่มกินขณะท้องว่างวันละ 2 ครั้ง และสูตรนี้ยังช่วยลดอาการม้ามโตได้อีกด้วย (ดอก)
    15. ช่วยแก้อาการหวัด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    16. ช่วยแก้อาการหืดไอ (ดอก, ผลแก่จัด)
    17. ช่วยแก้หืดหอบ (ดอก, ราก)
    18. ช่วยแก้อาการไอหรือลดอาการไอ มีอาการระคายคอจากเสมหะ ด้วยการใช้ผลแก่แห้งครึ่งผลนำมาฝนกับน้ำมะนาว แทรกเกลือเล็กน้อยแล้วใช้กวาดคอหรือใช้จิบบ่อย ๆ (ดอก, ผลแก่จัด)
    19. ช่วยแก้หลอดลมอักเสบ (ผลแก่จัด)
    20. ช่วยแก้อาการเจ็บในลำคอ ด้วยการใช้ดอกดีปลี 3 ดอก ผิวมะนาว 1 ลูก หัวกระเทียม 3 กลีบ และพริกไทยล่อน 3 เม็ด นำทั้งหมดมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำมะนาวและคลุกให้เข้ากัน นำมาปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดพุทรา แล้วใช้อมบ่อย ๆ (ดอก)
    21. ช่วยลดอาการเสียงแหบแห้งได้ ด้วยการใช้ผงดีปลีผสมกับสมอไทยอย่างละ 5 กรัมจนเข้ากัน แล้วผสมกับน้ำอุ่นไว้ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง (ผล)
    22. ช่วยแก้โรคลมบ้าหมู (ผล)
    23. เถาดีปลีมีรสเผ็ดร้อน ช่วยแก้เสมหะพิการ (ผล, เถา)
    24. ช่วยแก้เสมหะ ขับเสมหะ แก้เสมหะพิการ น้ำลายเหนียว ด้วยการใช้ผลแก่แห้งครึ่งผลนำมาฝนกับน้ำมะนาว แทรกเกลือเล็กน้อยแล้วใช้กวาดคอหรือใช้จิบบ่อย ๆ (ดอก, ผลแก่จัด, เถา, ราก)
    25. ช่วยแก้อุระเสมหะหรือเสมหะในทรวงอก (ผล)
    26. ดอกดีปลีช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน (ดอก)
    27. ช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียนอันเกิดจากธาตุไม่ปกติ ด้วยการใช้ผลดีปลีแก่แห้งประมาณ 1 กำมือ (10-15 ผล) นำมาต้มเอาน้ำดื่ม 2 ถ้วยแก้วประมาณ 15 นาที แล้วใช้ดื่มแต่น้ำหลังอาหาร วันละ 3 ครั้ง ถ้าไม่มีผลให้ใช้เถาต้มแทนก็ได้ (ผลแก่จัด, เถา)
    28. เถาดีปลีช่วยแก้อาการปวดฟัน หรือจะใช้ผลนำมาฝนเอาน้ำมาทาบริเวณที่ปวดก็ได้ (ผล, เถา)
    29. ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ด้วยการใช้ผลดีปลีแก่แห้งประมาณ 1 กำมือ (10-15 ผล) นำมาต้มเอาน้ำดื่ม 2 ถ้วยแก้ว ประมาณ 15 นาที แล้วใช้ดื่มแต่น้ำหลังอาหาร วันละ 3 ครั้ง ถ้าไม่มีผลให้ใช้เถาต้มแทน หรือจะใช้ดอกแก่นำมาต้มเป็นน้ำดื่มก็ได้ (ดอก, ผลแก่จัด, เถา)
    30. ช่วยแก้อาการปวดท้อง ด้วยการใช้ผลดีปลีแก่แห้งประมาณ 1 กำมือ (10-15 ผล) นำมาต้มเอาน้ำดื่ม 2 ถ้วยแก้วประมาณ 15 นาที แล้วใช้ดื่มแต่น้ำหลังอาหาร วันละ 3 ครั้ง (ผลแก่จัด, เถา, ราก)
    31. ดอกดีปลีช่วยแก้อาการท้องเสีย (ดอก)
    32. ช่วยแก้อาการท้องขึ้น (ผลแก่จัด)
    33. ช่วยแก้อาการท้องร่วง (ผล, ดอก, ราก)
    34. ช่วยขับลมในลำไส้ให้ผายและเรอ (ดอก, ผลแก่จัด, ราก)
    35. ใช้ประกอบในตำรับยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ธาตุไม่ปกติ (ผลแก่จัด)
    36. ผลใช้เป็นยาขับพยาธิในท้องได้ (ผล)
    37. แก้มุตฆาตหรือโรคขัดปัสสาวะช้ำเลือดช้ำหนอง (เถา)
    38. ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก โดยใช้ดอกดีปลี 10 ดอก เมล็ดงาดำดิบ 20 กรัม นำมาบดให้ละเอียดผสมกับนมดื่มวันละ 1 แก้ว ติดต่อกัน 15 วัน (ผล, ดอก, เถา)
    39. ผลแก่จัดของดีปลีช่วยบีบมดลูกและใช้เป็นยาขับระดูของสตรี (ผลแก่จัด)
    40. ผลใช้เป็นยาขับรกให้รกออกมาง่ายภายหลังจากการคลอดบุตรและใช้เวลาโลหิตตกมาก (ผล)
    41. ช่วยขับน้ำดี เมื่อมีการอุดตันของท่อน้ำดี (ผล)
    42. ช่วยแก้ตับพิการ (ผล, ดอก)
    43. รากดีปลีช่วยแก้เส้นแก้พิษอัมพฤกษ์ อัมพาต ดับพิษปัตคาด (ผล, ราก)
    44. ช่วยแก้อัมพาตและเส้นปัตคาด (ดอก)
    45. ช่วยแก้พิษคุดทะราดให้ปิดธาตุ (ราก)
    46. ช่วยแก้คุดทะราด (ดอก, ราก)
    47. เถาดีปลีช่วยแก้พิษงู (เถา)
    48. ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย แก้เส้นเอ็น (ใบ)
    49. ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบ เกาต์ ไข้รูมาตอยด์ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    50. ผลนำมาฝนเอาน้ำมาทาแก้อาการฟกช้ำบวมได้ (ผล)
    51. ผลแก่จัดใช้ปรุงเป็นยาทาภายนอก แก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ ทำให้ร้อนแดงและช่วยให้มีเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น (ผลแก่จัด)
    52. ดอกดีปลีเป็นส่วนประกอบของตำรับยา “พิกัดเบญจกูล” ในคัมภีร์อายุรเวท ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกดีปลี รากช้าพลู เหง้าขิงแห้ง เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง โดยเป็นตำรับยาที่ใช้ประจำธาตุต่าง ๆ และใช้แก้ในกองฤดู กองสมุฎฐานต่าง ๆ ช่วยกระจายกองลมและโลหิต แก้คูถเสมหะ แก้ลมพานไส้ ช่วยระงับโรคอันบังเกิดแต่ทวัตติงสาหาร (อาการ 32) และช่วยบำรุงกองธาตุทั้งสี่ให้สมบูรณ์ (ดอก)
    53. ผลดีปลีจัดอยู่ในตำรับยา “พิกัดตรีสันนิบาตผล” (ตรีสัพโลหิตผล) ซึ่งประกอบไปด้วย ผลดีปลี รากพริกไทย และรากกะเพราแดง ที่มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้สันนิบาต ช่วยบำรุงธาตุ แก้ในกองลม และช่วยแก้ปถวีธาตุ 20 ประการ (ผล)
    54. ดีปลีจัดอยู่ในตำรับยา “พิกัดตรีกฎุก” ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องยา 3 อย่าง ในปริมาณเท่ากัน อันได้แก่ ดีปลี ขิงแห้ง และพริกไทย โดยมีสรรพคุณช่วยแก้โรคที่เกิดจากวาตะ (ลม), แก้เสมหะและปิตตะ (ดี) ในกองธาตุ กองฤดู และกองสมุฏฐาน (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    55. ดีปลีจัดอยู่ในตำรับยา “พิกัดตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด” ซึ่งประกอบไปด้วย ดีปลี พริกไทย ใบแมงลัก ผลกระวาน ใบโหระพา ผลผักชีลาว โดยมีสรรพคุณช่วยในการย่อยอาหาร แก้ลมจุกเสียด ช้ำบวม (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    56. ดีปลีปรากฏอยู่ในตำรับยา “ยาอาภิสะ” ซึ่งเป็นตำราพระโอสถพระนารายณ์ ที่มีดีปลีเป็นองค์ประกอบหลักร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ อีกหลายชนิด โดยมีสรรพคุณช่วยแก้อาการไอ ผอมแห้ง แก้เสมหะในทรวงอกและลำคอ และช่วยแก้ริดสีดวงทวาร (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    57. ดีปลีจัดอยู่ในตำรับยา “ยาหอมนวโกฐ” อันมีดีปลีเป็นองค์ประกอบร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ โดยตำรับยานี้มีสรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน อาการหน้ามืดตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียนอาเจียน และช่วยแก้ลมจุกแน่นในท้อง (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    58. ดีปลีจัดอยู่ในตำรับยา “ยาประสะกานพลู” ซึ่งมีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในตำรับยา โดยมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง อาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    59. ดีปลีปรากฏอยู่ในตำรับยา “ยาประสะไพล” ที่มีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ โดยมีสรรพคุณช่วยแก้ระดูมาไม่สม่ำเสมอหรือมาน้อยกว่าปกติของสตรี (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    60. ดีปลีจัดอยู่ในตำรับยา “ยาเหลืองปิดสมุทร” โดยมีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ อีก 12 ชนิดในตำรับยา ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปน หรืออาการท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ เป็นต้น (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
    61. ดีปลีจัดอยู่ในตำรับยา “ยาธาตุบรรจบ” ซึ่งมีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในตำรับยา โดยมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น